หนึ่งในของกินช่วงคริสต์มาสที่หลายคนเห็นกันมากตามร้านค้าต่าง ๆ นั้นคือ เค้กที่ชื่อว่า Panettone มันน่าจะอ่านว่า พา-เน-โท-เน่ และในบทความนี้จะกล่าวถึงประวัติของมันเพื่อจะทำให้การกินเค้กนี้อร่อยขึ้นนิดนึง
เค้ก Panettone นี้เป็นเค้กที่เนื้อค่อนข้างแห้ง เป็นรูปโดม ฟู ๆ นุ่ม ๆ ที่มีลูกเกด ผลไม้แห้ง หรือถั่ว เค้กนี้มีต้นกำเนิดมาจาก อิตาลี่ จริงๆ ระบุเมืองคือ มิลาน ในช่วงปี ค.ศ. 1500s ที่เริ่มต้นจากการเป็นเค้กสุดหรูหรา หากินได้ยาก และเป็นเค้กที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ คือสมัยนั้นมันยังไม่มีการผลิตยีสต์แบบเยอะ ๆ (ยีสต์คือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ทำให้ขนมปังฟู) ดังนั้นยีสต์จึงราคาแพง และขนมปัง Panettono ที่ต้องใช้ยีสต์นี้ก็ราคาแพงไปด้วย จึงต้องกินในแบบพิธีกรรมดูศักดิ์สิทธิ์ เช่นพิธีกรรมในวันคริสต์มาส
การกินก็จะมีสามก้อนที่สื่อถึง Trinity – ตรีเอกภาพ คือ พระบิดา aka God พระบุตร aka พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์
ในช่วงปี 1800 เค้กนี้ก็ได้ปรับปรุงสูตรโดยก็ได้เพิ่ม เนย ไข่ น้ำตาลและลูกเกด คนทำขนมปังชื่อ Angla Motta เป็นคนที่คิดว่าขนมนี้เราน่าจะปล่อยให้แป้งโดพองตัวเป็นเวลานานกว่าปรกติคือประมาณ 12 ชั่วโมง และมันก็เป็นที่มาของทำไมขนมเค้กนี้ถึงเป็นทรงโดม และหนุ่มฟู
เค้กนี้เพิ่งมีการผลิตออกมาเยอะในช่วงต้นของปี 1900s และด้วยการว่าคนอิตาลี่ได้ย้ายไปอยู่ในอเมริกา หรือจริงๆ ก็ย้ายไปหลายที่แหละก็ได้เอาเค้กนี้ไปให้เป็นที่รู้จักรวมถึงในอังกฤษด้วย
ปัจจุบันขนมเค้กนี้อาจจะถูกมองเป็นแค่ของหวาน หรือขนมเฉยๆ และมีการใส่ส่วนประกอบเช่นครีม หรือ
เลมอน ชอกโกแลต(ไม่เข้าอะ) หรือ อัลมอนด์ ขนมเค้กนี้สามารถกินพร้อมกับ ชา กาแฟ หรือไวน์
ส่วนใหญ่เรากินอันที่อิมมาจากยุโรป หรือไม่ก็ของ M&S อะ แต่อันที่เป็นชอกโกแลตไม่อร่อยนะ บอกเลย
